กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง
เป็นนโยบายของรัฐบาลซึ่งมี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นการเสริมสร้างกระบวนการพึ่งพาตนเองของหมู่บ้านและชุมชนเมืองในด้านการเรียนรู้
การสร้างและพัฒนาความคิดริเริ่ม
และการแก้ไขปัญหาและเสริมสร้างศักยภาพทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมของประชาชนในหมู่บ้านและชุมชนเมือง
โดยรัฐบาลจัดตั้งกองทุนหมู่บ้าน
และชุมชนเมือง กองทุนละ 1 ล้านบาท
พร้อมเสริมสร้างและพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนเมืองให้มีขีดความสามารถ
ในการจัดระบบบริหารจัดการเงินกองทุนหมุนเวียน ในหมู่บ้านและชุมชนเมืองกันเอง
ปรัชญา
1.
เสริมสร้างสำนึกความเป็นชุมชนและท้องถิ่น
2.
ชุมชนเป็นผู้กำหนดอนาคต และจัดการหมู่บ้าน และชุมชนด้วยคุณค่าและภูมิปัญญาของตนเอง
3.
เกื้อกูลประโยชน์ต่อผู้ด้อยโอกาสในหมู่บ้าน และชุมชน
4.
เชื่อมโยงกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างชุมชน ราชการ เอกชน และประชาสังคม
5.
กระจายอำนาจให้ท้องถิ่น และพัฒนาประชาธิปไตยพื้นฐาน
วัตถุประสงค์
1.
เป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนในหมู่บ้าน
และชุมชนเมืองสำหรับการลงทุนเพื่อการพัฒนาอาชีพ สร้างงาน
สร้างรายได้หรือเพิ่มรายได้
การลดรายจ่ายการบรรเทาเหตุฉุกเฉินและความจำเป็นเร่งด่วน
และสำหรับการนำไปสู่การสร้างกองทุนสวัสดิภาพที่ดีแก่ประชาชนในหมู่บ้านหรือชุมชน
2.
ส่งเสริมและพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนเมืองให้มีขีดความสามารถในการจัดระบบ
และบริหารจัดการเงินทุนของตนเอง
3.
เสริมสร้างกระบวนการพึ่งพาตนเองของหมู่บ้านและชุมชนเมืองในการเรียนรู้
การสร้างและพัฒนาความคิดริเริ่ม เพื่อแก้ไขปัญหาและเสริมสร้างศักยภาพ
และส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียงในหมู่บ้านและชุมชนเมือง
4.
กระตุ้นเศรษฐกิจ
ในระดับฐานรากของประเทศรวมทั้งเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในอนาคต
5.
เสริมสร้างศักยภาพและความเข้มแข็งทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของประชาชนในหมู่บ้านหรือชุมชนเมือง
หลักการจัดสรรเงิน คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมืองแห่งชาติมีหลักการในการจัดสรรเงินให้แก่กองทุนหมู่บ้านหรือชุมชนเมือง
ดังนี้
1.
ความพร้อม ความสนใจ และการมีส่วนร่วมของประชาชนในหมู่บ้านหรือชุมชนเมือง
2.
ความพร้อมของคณะกรรมการกองทุน ที่เน้นความพร้อมของบุคคลทั้งในด้านความรู้
และประสบการณ์ในการบริหารจัดการกองทุน
3.
ความพร้อมของระบบการตรวจสอบและประเมินผลการดำเนินงานของคณะกรรมการกองทุนโดยสมาชิก
4.
ความพร้อมของการบริหารจัดการ ที่สอดรับและเกื้อกูลกัน
ระหว่างกองทุนหมู่บ้านหรือชุมชนเมืองกับกองทุนอื่นๆ
ที่หน่วยงานราชการจัดตั้งขึ้นในหมู่บ้านหรือชุมชนเมือง
เตรียมความพร้อมอย่างไร ประชาชนในหมู่บ้านหรือชุมชนเมือง
จะต้องร่วมกันเพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดตั้งกองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมือง
ตามขั้นตอน ดังนี้
1.
สร้างจิตสำนึก และกระบวนการเรียนรู้ร่วมกัน
-
สร้างจิตสำนึกร่วมกันของประชาชน ในการเป็นเจ้าของกองทุนที่จะต้องร่วมกันบริหารจัดการโดยประชาชนเพื่อประชาชนของหมู่บ้านหรือชุมชนเมือง
-
สร้างกระบวนการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อให้ทราบนโยบาย กลไก
แนวทางการบริหารจัดการกองทุนของตนเอง
-
สร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการดำเนินการ และบริหารจัดการกองทุน
เริ่มจากร่วมรับรู้ ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมติดตามตรวจสอบ ร่วมรับผลประโยชน์
ตลอดจนร่วมสร้างกองทุนไปสู่ความยั่งยืนต่อไป
2.
เลือกสรรคนดีเป็นกรรมการกองทุน
จัดเวทีชาวบ้าน
เพื่อเลือกสรรคณะกรรมการกองทุนจำนวน 15 คน ตามระเบียบของคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ
ดังนี้
-
องค์ประชุมของเวทีชาวบ้าน คือจำนวนสามในสี่ของจำนวนครัวเรือนทั้งหมดของหมู่บ้าน
หรือชุมชนเมือง
-
ร่วมกันกำหนดวิธีการและดำเนินการเลือกกันเอง
-
เลือกคณะกรรมการกองทุน ในช่วงระเวลาที่คณะกรรมการกองทุน
หมู่บ้านและชุมชนเมืองกำหนด
-
เลือกคนดีมีความรู้ ประสบการณ์ อีกทั้งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม
ตามที่คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติกำหนด
คุณสมบัติคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านหรือชุมชนเมือง
ประชาชนร่วมกันคัดเลือกคนดีและมีคุณสมบัติ
ดังต่อไปนี้ เป็นคณะกรรมการกองทุนเพื่อบริหารกองทุนของประชาชน
-
เป็นผู้ที่อยู่อาศัยในหมู่บ้านหรือชุมชนมาไม่น้อยกว่า 2 ปี
-
เป็นผู้มีอายุ 20 ปีบริบูรณ์
-
เป็นผู้ปฏิบัติตนอยู่ในหลักศาสนา มีความรับผิดชอบเสียสละ
มีส่วนร่วมในกิจกรรมของหมู่บ้านและชุมชนเมือง ไม่ติดการพนัน
ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่มีประวัติเสียด้านการเงินและยึดมั่นระบอบประชาธิปไตย
-
ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย หรือไร้ความสามารถ
-
ไม่เคยรับโทษจำคุก เว้นแต่โทษที่กระทำโดยประมาท
-
ไม่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่าทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือไม่เคยกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพย์
เว้นแต่ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์และความผิดฐานบุกรุก
-
ไม่เคยถูกไล่ออก หรือให้ออกจากราชการหรือรัฐวิสาหกิจ
-
ไม่เป็นผู้ไม่ไปใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้ง
-
ไม่เคยถูกให้ออกจากคณะกรรมการกองทุน ด้วยมติของคณะกรรมการหรือมติของสมาชิก
3.
จัดทำระเบียบข้อบังคับ
เมื่อดำเนินการเลือกคณะกรรมการกองทุนแล้ว
คณะกรรมการกองทุน และประชาชนร่วมกันจัดทำระเบียบข้อบังคับ หลักเกณฑ์
และวิธีการเกี่ยวกับการบริหารกองทุน (กติกา) กองทุนหมู่บ้านหรือชุมชนเมืองตนเอง
โดยมีแนวทางดังนี้
-
ประเด็นที่ต้องเป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติกำหนด
คือ
-
วงเงินกู้ยืมรายหนึ่งไม่เกินสองหมื่นบาท
หากเกินต้องให้สมาชิกพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาด แต่รายหนึ่งต้องไม่เกินห้าหมื่นบาท
-
ระยะเวลาชำระคืนเงินกู้ไม่เกินหนึ่งปี
-
ประเด็นอื่น ๆ คณะกรรมการกองทุนโดยความเห็นของของสมาชิกเป็นผู้กำหนด
4.
การจัดตั้งกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง
เมื่อจัดทำระเบียบ
ข้อบังคับ หลักเกณฑ์ และวิธีการบริหารจัดการกองทุนแล้ว คณะกรรมการกองทุน (กติกา)
และสมาชิกจะต้องร่วมกันดำเนินการตามกติกาที่วางไว้ เช่น
-
การรับสมาชิก
-
การระดมทุน
-
การจัดทำระบบบัญชี
-
การจัดระบบตรวจสอบ
-
การมอบหมายภารกิจ ความรับผิดชอบกรรมการ
-
อื่น ๆ
5.
การขอรับการจัดสรรเงินจากรัฐบาล
เมื่อกองทุนได้ดำเนินการจัดตั้งกองทุนเรียบร้อยแล้ว
สามารถขอรับการจัดสรรเงินจากคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ
โดยมีขั้นตอนดังนี้
5.1
การขอขึ้นทะเบียนกองทุนหมู่บ้านหรือชุมชนเมือง
- จัดทำแบบขอขึ้นทะเบียนตามแบบ กทบ. 2
ซึ่งขอรับแบบ กทบ. 2 จากคณะอนุกรรมการสนับสนุนระดับอำเภอ
- ยื่นแบบคำขอขึ้นทะเบียนกับธนาคารออมสิน
หรือธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ที่คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติกำหนด
พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง คือ ระเบียบ ข้อบังคับของกองทุน
-
เปิดบัญชีกับธนาคาร
5.2
การประเมินความพร้อมกองทุน
-
การคัดเลือกคณะกรรมการกองทุน
-
คุณสมบัติของคณะกรรมการกองทุน
-
ความรู้ ประสบการณ์ และความมั่นใจการบริหารกองทุนของคณะกรรมการกองทุน
-
ระเบียบ ข้อบังคับในการดำเนินการกองทุน
-
การมีส่วนร่วมของชาวบ้าน หรือสมาชิกในการจัดการกองทุน
-
การปฏิบัติของสมาชิกตามระเบียบ และข้อบังคับของกองทุน
-
การเปิดบัญชีเงินฝากของกองทุน
5.3
รับเงินจัดสรร
เมื่อคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติอนุมัติเงินจัดสรรตามผลการประเมินความพร้อมแล้ว
จะแจ้งให้กองทุนหมู่บ้านหรือชุมชนเมืองทราบ
เมื่อกองทุนได้รับแล้วให้ติดต่อธนาคารเพื่อทำหลักฐานการรับเงินจัดสรร
โดยมีเอกสารดังต่อไปนี้
-
สมุดบัญชีเงินฝากของกองทุน
-
มติที่ประชุม ซึ่งเห็นชอบและมอบหมายให้คณะกรรมการกองทุน
เป็นผู้มีอำนาจในการทำนิติกรรมสัญญากับธนาคารไปแสดงต่อธนาคารฯ
และมติดังกล่าวต้องให้ประธานกรรมการของกองทุนลงนามกำกับ และรับรองสำเนาครบทุกหน้า
-
บัตรประจำตัวประชาชนของคณะกรรมการกองทุน
6.
ทำอย่างไร เมื่อไม่ผ่านการประเมินความพร้อม
กองทุนหมู่บ้านหรือกองทุนชุมชนเมืองใดที่ได้รับแจ้งว่าไม่ผ่านการประเมินความพร้อม
ให้ดำเนินการเตรียมความพร้อมเรื่องต่าง ๆ ตามที่ได้รับแจ้งผลการประเมินความพร้อม
โดยมีแนวทางและวิธีการดังนี้
6.1
แนวทางการเตรียมความพร้อม คณะกรรมการกองทุนร่วมกับสมาชิกเตรียมความพร้อมตามแนวทางดังนี้
-
โดยร่วมมือและช่วยเหลือกันเองในหมู่บ้าน
-
ขอความช่วยเหลือจากกองทุนหมู่บ้านหรือกองทุนชุมชนเมือง
ที่ผ่านการประเมินความพร้อมแล้ว
-
ขอความช่วยเหลือจากคณะอนุกรรมการสนับสนุนระดับจังหวัดและอำเภอ
-
การผสมผสานกันทั้ง 3 แนวทาง
6.2
วิธีการเตรียมความพร้อม คณะกรรมการกองทุน
ดำเนินการเพื่อให้เกิดความพร้อมด้วยวิธีดังนี้
-
สร้างกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันในหมู่บ้านหรือชุมชน
โดยการใช้เครือข่ายกองทุนหมู่บ้านหรือชุมชนอื่นที่ผ่านการประเมินความพร้อมแล้วเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
-
การสนับสนุนความรู้ด้านวิชาการและการจัดการแก่คณะกรรมการกองทุนและสมาชิกจากอนุกรรมการสนับสนุนระดับจังหวัดและอำเภอ
6.3
ทำอย่างไรเมื่อมีความพร้อมแล้ว
-
เมื่อกองทุนมีความพร้อม คณะกรรมการกองทุนแจ้งคณะอนุกรรมการสนับสนุนระดับอำเภอ
เพื่อมาติดตามตรวจสอบ และรายงานคณะอนุกรรมการสนับสนุนระดับจังหวัด
-
คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ จะโอนเงินเข้ากองทุน
เมื่อได้รับรายงานจากคณะอนุกรรมการสนับสนุนระดับจังหวัด
ความสำเร็จของกองทุนหมู่บ้านและกองทุนชุมชนเมือง
กองทุนหมู่บ้านและกองทุนชุมชนเมือง
จะประสบผลสำเร็จได้หากมีสิ่งเหล่านี้อยู่ในหมู่บ้าน หรือชุมชนเมือง
-
ชาวบ้านมีจิตสำนึกร่วมกันในการเป็นเจ้าของกองทุน
-
ชาวบ้านมีส่วนร่วมในการกำหนดกติกาด้วยคุณค่าและภูมิปัญญาของตนเอง
รวมทั้งเคารพในกติกาที่กำหนดร่วมกัน
-
มีคณะกรรมการกองทุนที่เป็นคนดี มีความรู้ ประสบการณ์ เสียสละ และรับผิดชอบ
-
มีการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมทั้งการเรียนรู้ร่วมกัน คิดร่วมกัน ทำร่วมกัน
ติดตามตรวจสอบร่วมกัน และรับผลประโยชน์ร่วมกัน อย่างเป็นธรรม
-
มีความสามัคคี ความเอื้ออาทร เกื้อกูลผู้ด้อยโอกาส
-
มีการประสานความร่วมมือทั้งในด้านการเรียนรู้และกิจกรรมร่วมกัน
ในลักษณะเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านหรือชุมชนเมือง
-
คณะอนุกรรมการสนับสนุนระดับจังหวัด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น